เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มี 4 เส้นทาง ได้แก่
1. เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) เส้นทางนี้ผ่านแปลงรวมพันธุ์กล้วย บอน ปาล์ม เฟิน แปลงขิงข่า ปรง และสน ระยะทางประมาณ 600 เมตร
2. เส้นทางพันธุ์ไม้ไทยและพืชสมุนไพร เส้นทางนี้เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ไทยไว้กว่า 1,000 ชนิด อาทิ พืชสมุนไพร พันธุ์ไม้หายาก และพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระหว่างเส้นทางเดินท่านจะพบพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจ และป้ายสื่อความหมายที่อธิบายสรรพคุณของพืชสมุนไพร แต่ละชนิดไว้อย่างน่าสนใจ และมีการเสริมภูมิทัศน์ด้วยกล้วยไม้ไทยนานาชนิด ให้ความสวยงามและร่มรื่น เส้นทางเดินจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
3. เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ชาติ หรือ ไม้เลื้อย คือ พรรณไม้ที่ต้องการสิ่งที่อาศัยสิ่งยึดเกาะ (supporter) อื่นๆ ในการเลื้อยพันและยึดเกาะเพื่อพยุงลำต้นในการเจริญเติบโต เนื่องจากไม่สามารถพยุงตัวไว้เองได้ นักพฤกษศาสตร์คาดว่าในประเทศไทยมีวัลยชาติอยู่ประมาณ 60 วงศ์ 160 สกุล รวมประมาณได้กว่า 2000 ชนิด และกว่าครึ่งของพืชจำนวนนี้ยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ส่วนใหญ่จะมีคุณค่าทางโภชนาการหรือสมุนไพรมีความสวยงาม สามารถนำมาพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้ดี สำหรับเส้นทางวัลยชาติสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์นั้น เป็นเส้นทางทอดยาวไปตามสันเขา บางตอนค่อนข้างชัน มีการจัดปลูกพืชไม้เลื้อยไว้ตลอดทั้งสองข้างทาง รวมมากกว่า 250 ชนิด ระยะทางประมาณ 800 เมตร
4. เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) เป็นเส้นทางเดินเท้าเรียบไปตามห้วยแม่สาน้อยท่านจะพบกับพืชเฉพาะถิ่น และพรรณไม้แปลกตา ผ่านไปทางสวนหินซึ่งเป็นที่ รวบรวมพืชแล้งนานาชนิดผสมกับการนำหินลักษณะต่างๆ มาตกแต่งบริเวณดังกล่าวทำให้รู้สึกกลมกลืน และเส้นทางจะสิ้นสุดที่เรือนรวมพรรณกล้วยไม้ไทยซึ่งมีกล้วยไม้ไทยรวมไว้กว่า 350 ชนิด รวมระยะทางประมาณ 300 เมตร อีกไฮไลท์สำคัญคือการ เดินชมธรรมชาติบน “สะพานลอยฟ้า” ที่สูงกว่า 20 เมตรแล้ว ให้นักท่องเที่ยวเดินทอดน่องชมธรรมชาติ และสรรพสิ่งในป่าดิบแล้ง-ป่ามรสุมเขตร้อน ฯลฯ ด้วยความยาวกว่า 400 เมตร ใช้งบประมาณสร้างกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย โดยเริ่มเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินชมธรรมชาติ พืชพรรณไม้ นก และผีเสื้อ เหนือยอดไม้ รับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหาร ช่วงบ่าย นำลูกค้าไปยัง อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อยู่ที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ เป็นโครงการหมู่บ้านตัวอย่างตามพระราชดำริแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ และจัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เขตทหาร คำว่า ห้วย คือทางน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาคำว่า “ตึง” เป็นภาษาเหนือ เป็นชื่อย่อต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ตองตึง” เฒ่า คือแก่หรือมีอายุ มารวมกันเรียกว่า “ห้วยตึงเฒ่า” หมายถึง ลำห้วยที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นตองตึง ที่มีลำต้นและใบแก่อยู่มากมาย จุดเด่นของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า จะมีทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม มีหาดทรายคล้ายชายทะเล สามารถเล่นน้ำได้ มีซุ้มร้านอาหารเป็นแพให้บริการ นำทุกท่านไปดูหุ่นฟางยักษ์กับทุ่งนาเชิงดอยสวยๆ หุ่นฟางคิงคองยักษ์ใหญ่มากๆ เซลฟี่กับพี่คิงคอง สามารถเดินขึ้นไปด้านบนได้ด้วย ได้วิวมุมสูงสวยๆ แล้วไปดูวิวทุ่งนาสวยๆ กัน แลนด์มาร์กใหม่เป็นหุ่นฟางแม่แกะและลูกแกะยักษ์ ที่มีความพิเศษกว่าหุ่นฟางทั่วไป โดยตัวแม่มีความสูงถึง 4 เมตร ส่วนตัวลูกสูง 3 เมตร ลำตัวใช้ขนแท้ที่ตัดจากแกะที่เลี้ยงในโครงการจำนวน 99 ตัว นำมาตกแต่งให้เหมือนแกะจริง รายล้อมไปด้วยหุ่นฟางสัตว์นานาชนิดที่หาดูได้ยากท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจีที่มีภูเขารายล้อมด้านหลัง มีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวไปกลางนาและกระท่อมกลางนา พร้อมมีกิจกรรมป้อนอาหารฝูงแกะสายพันธุ์บอนด์และพันธุ์คอร์ดิเดล บนลานเลี้ยงแกะแบบใกล้ชิด ส่งลูกค้ากลับโรงแรม หรือ ที่พัก ... ราคาท่านละ 700 บาท ( 4 ท่าน ขึ้นไป )